สำหรับน้องๆที่ยังไม่ทราบเรื่องของ วันภาษาอังกฤษ นะครับ วันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับวันและเวลาภาษาอังกฤษมาฝากกันครับ รับรองถูกใจน้องๆกันแน่นอน เรามาดูกันเลยครับ
ถ้าเราจะพูดถึงวันก่อน หลายๆคนคงจะนึกไม่ออกว่าจะต้องใช้คำไหนดี ใช้คำนี้นะครับ the previous day ซึ่งหมายถึง วันก่อน ถ้าเราจะบอกว่าวันรุ่งขึ้นหล่ะ the following day คำนี้นะครับที่ระบุถึงวันรุ่งขึ้น สามารถนำไปประยุคกับ สัปดาห์ เดือน หรือปีได้นะครับ เพียงแค่นำคำเหล่านั้นไปเติมข้างท้าย เช่น the following week ก็แปลว่าสัปดาห์หน้าแล้วครับ
หากเราจะใช้เจาะจงในเรื่องของวันลงไปเช่น ภายใน 2 วัน คือ in two days' time or in two days และสามารถเปลี่ยนเป็น weeks, mounths, หรือ years ได้เลยครับ เช่น in two years' time or in two years ซึ่งแปลว่าภายใน 2 ปี เป็นต้น
ทีนี้เรามาพูดถึงเรื่องของระยะเวลาที่ผสมผสานกับวันกันบ้างนะครับ เช่น ฉันอยู่ที่แคนาดามา 6 เดือนแล้ว I lived in Canada for six months. หรือ I'm going to France tomorrow for two weeks. พรุ่งนี้ฉันจะไปฝรั่งเศสสัก 2 อาทิตย์ เป็นต้น จะสังเกตุเห็นว่าใช้ for ในการเชื่อมระหว่าวันและเวลานะครับ
ในภาษาอังกฤษในคำที่มีความหมายในเรื่องของวันและเวลา ส่วนใหญ่แล้วมักจะมี Frequency เข้ามาร่วมด้วยนะครับ คือ ความบ่อยนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น never, rarely, occasionally, sometimes, often or frequently, usually or normally, always, every day or daily, every week or weekly, every month or monthly, every year or yearly ไม่เคย ไม่บ่อย บางครั้งบางคราว/ แล้วแต่โอกาส บางครั้ง บ่อยครั้ง เป็นปกติ เสมอ ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี เป็นต้น
ทีนี้เรามาดูเรื่องของวันภาษาอังกฤษจริงๆกันบ้างนะครับ ว่ามีวันอะไรบ้าง และเขียนอย่างไร ในวันภาษาอังกฤษนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 วันนะครับ คือ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ครับ ภาษาอังกฤษคือ Monday , Tuesday , Wednesday, Thursday, Friday, Saturday, Sunday เรามาดูตัวอย่างกันนะครับว่าแต่ละคำนั้นใช้กันอย่างไร
Monday = วันจันทร์
We'll release the final agenda on Monday morning of January 20, so please reply quickly.
This is to confirm the appointment we made to meet at your office at 10:00 am on Monday, February 27th.
Would you please meet me at Yaesu central gate of Tokyo Station on Monday May 10 at 3:00 p.m?
How many classes do you have on Mondays?
You have to stay in bed until next Monday.
Monday through Friday are work-days in this company.
This work is be friend by Monday.
This letter says that he will arrive on Monday.
This assignment is to be handed in on Monday.
Is the staff meeting held on Monday?
Tuesday = วันอังคาร
The all-day DTA Technical meeting on Tuesday Jan 14 was attended by 32 people from 18 DTA firms.
One Tuesday I stayed home because I had an appointment with the dentist later in the morning.
I will see you on next Tuesday, that is to say, the 10th of September.
But Tuesday morning were different, because Tuesday was music day.
The party has been put off until next Tuesday.
Come on Tuesday, if possible.
There will be an in-person meeting of the marketing subcommittee on Tuesday afternoon of Jan 27, 1999 at the San Francisco CA Airport Marriott.
We must finish everything before Tuesday morning.
It has been raining since Tuesday.
On Tuesday and Friday night.
Wednesday = วันพุธ
I will come on Wednesday evening unless I hear from you to the contrary.
The politician receives on Wednesdays.
Derby Day is Wednesday fortnight.
Bob suggested that the party be put off till Wednesday.
I work every other day: Monday, Wednesday and Friday.
Next Wednesday will be fine.
Do you have anything next Wednesday?
Our club will hold its monthly meeting next Wednesday.
I work every other day: Monday, Wednesday, and Friday.
I have to hand in my report by next Wednesday.
Thursday = วันพฤหัสบดี
You must hand in your homework by Thursday without fail.
Everybody except the Anderson family is going to the party next Thursday evening.
The weekly appears on Thursday.
Blue Sky Sport is closed every Thursday.
Hi, Fred, how about badminton on Thursday?
The phone number for the Thursday evening phone conference is 415-904-8873.
The meeting is to be held next Thursday.
I will be here from Monday to Thursday.
How about two weeks from Thursday?
I'll do my best, I'll not be able to finish it before Thursday at best.
Friday = วันศุกร์
It is said that Friday the 13th is an unlucky day.
Would you please pick me up at the hotel on Friday July 11 at 10:00 a.m?
What will you do on Friday?
Miss Klein gives a test every Friday.
Monday through Friday are work-days in this company.
Can you account for your absence last Friday?
It was in this room that we had the meeting last Friday.
We adjourned the meeting until the following Friday.
The accident occurred on Friday.
The tickets were not available for Friday's performance.
Saturday = วันเสาร์
"How about going to the movies on Saturday?" "I'd like to do."
You should turn in your paper by next Saturday.
Did you go to Ming's party last Saturday?
We cannot finish it before Saturday at best.
Amy worked in the yard last Saturday.
This supermarket delivers only on Saturday.
On Saturdays, we usually visit in this park.
Jack and I agreed to work at the office on Saturdays by turns.
The meeting will be held at 10:30 a.m. on Saturday.
The shop is open from Monday to Saturday.
Sunday = วันอาทิตย์
What do you do on Sunday?
Alice has had a cold since last Sunday.
One Sunday morning George burst into the living room and said.
Are the stores closed on Sunday in England?
I slept all day yesterday, because it was Sunday.
Today is Sunday.
Sunday is a holiday in Christian countries.
Mrs. Green, from whom my children have lessons in singing, is to have a recital next Sunday.
My time for these exercise and reading was at night, after work or before it began in the morning, or on Sundays.
Last Sunday Mary and I went to the library together.
จากตัวอย่างที่ให้ไปเกี่ยว วันภาษาอังกฤษ คงทำให้เพื่อนๆน้องๆได้ฝึกฝนและจำเกี่ยวกับวันเหล่านี้ได้ดีทีเดียว อย่าลืมนะครับว่า วันจะเกี่ยวข้องกับเวลาด้วยเสมอครับ ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่ง หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆน้องๆทุกคนนะครับ
จดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ เขียนอย่างไรให้ได้ผล
หากจะพูดถึงเรื่องของการเขียน จดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ แล้วหล่ะก็ หลายๆคนคงเคยเขียน ซึ่งการที่เราจะเขียนอย่างไรให้ได้ผลนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่เราจะต้องทำการฝึกฝนให้ชำนาญพอสมควรเลยทีเดียว เรามาดูกันครับว่า เราจะเขียนอย่างไรให้โดนใจคนอ่าน มาดูกันเลยนะครับ
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า ผมไม้ได้เขียนตัวอย่างให้ดูนะครับ แต่ผมจะเล่าตามหลักความเป็นจริงซึ่งหลายๆคนคงไม่อยากมานั่งเขียนให้เสียเวลาหรอก ส่วนใหญ่แล้วก็ไปลอกเอาซึ่งมีเยอะแยะมากมายในอินเทอร์เน็ต ถูกบ้างผิดบ้างปะปนกันไป แต่เคยสังเกตุมั๊ยครับว่า ข้อความที่เรียบเรียงแล้วเขียนลงในเนื้อจดหมายนั้นช่างเป็นอะไรที่อ่านแล้วรื่นดีจริง แต่หารู้ไม่ว่า หากเราเอาไปใช้แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง มาดูตัวอย่างกันเลยครับ
อันนี้น่าคิดนะครับ อันดับแรกเลย ถ้าคนอ่านเกิดอ่านแล้วถูกใจขึ้นมาแล้วเรียกเราไปสัมภาษณ์หล่ะ เราจะทำอย่างไร จะตอบคำถามได้อย่างที่เราเขียนไปมั๊ย? คำตอบคือไม่ครับ เพราะเราลอก 555
ทางที่ดีี่สุดดูตัวอย่างและแบบฟอร์มที่เขาเขียนและทำมา แล้วเรียบเรียงเป็นภาษาของเรา หากเกิดได้สัมภาษณ์ขึ้นมาเราจะได้ตอบได้ครับ คนอ่านจะดูความสามารถของเราตรงนี้หล่ะ ในฐานะที่ผมก็เป็นอีกคนที่รับสัมภาษณ์งาน เห็นจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษมาเยอะครับ แต่พอสัมภาษณ์แต่ละคนจริงๆ แป๊กทั้งนั้น
อยากบอกน้องๆนะครับที่กำลังหางานอยู่ เบื้องต้นเลยน้องต้องเขียนจดหมายภาษาอังกฤษให้เป็น ไม่ต้องเอาเนียนแบบๆฟอร์มมาก เอาเป็นที่เข้าใจก็พอครับ โครงสร้างภาษาอังกฤษอย่าให้ผิดเป็นพอ คนอ่านเขาดูจุดนี้เป็นพิเศษด้วยนะครับ
จดหมายที่เขียนไปไม่ได้หมายความว่าคนอ่านจะรับเข้าทำงานเลยนะครับ เขาต้องนัดสัมภาษณ์อีก ถ้าเนียนเกินไปก็อาจทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือได้ ทางที่ดีเขียนตามความเป็นจริงนะครับ อย่าคิดว่าลอกมาเนียนๆ แต่พอสัมภาษณืจริงๆมันไม่เนียนอย่างที่คิด คนสัมภาษณ์เหนื่อยครับ
หลายๆคนคงจะสงสัยกันแล้วนะครับว่า แล้วจะเขียนอย่างไรหล่ะให้ได้ผล ถ้าไม่เนียน ผมมีเทคนิคดีๆมาฝากครับ ก็ทิ้งท้ายในจดหมายด้วยคำนี้ May I have an interview to discuss my qualifications with you in greater detail? I can come to your office at any time convenient to you (whenever you suggest). My telephone number is 123456789 ขอได้โปรดเรียกกระผม เข้าสอบสัมภาษณ์ เพื่อจะได้ทราบ รายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับคุณสมบัติของกระผม กระผมสามารถ มายังสำนักงานของท่าน เวลาใดก็ได้ ตามที่ท่านจะสะดวก (ตามที่ท่านจะนัดหมาย) หมายเลขโทรศัพท์ ของกระผมคือ 123456789 แค่นี้ก็ได้ลุ้นแล้วครับ
ประโยคนี้ก็ใช้ได้ทีเดียวครับ I look forward to the pleasure of a personal interview. กระผมหวังว่าคงจะได้รับความกรุณา ให้ได้เข้ารับการสอบสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัว
หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้วหลายๆคนคงเข้าใจเรื่องของการเขียน จดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ ให้ได้ผมไม่มากก็น้อยทีเดียวนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีในการสมัครงานนะครับ
![]() |
จดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ |
อันนี้น่าคิดนะครับ อันดับแรกเลย ถ้าคนอ่านเกิดอ่านแล้วถูกใจขึ้นมาแล้วเรียกเราไปสัมภาษณ์หล่ะ เราจะทำอย่างไร จะตอบคำถามได้อย่างที่เราเขียนไปมั๊ย? คำตอบคือไม่ครับ เพราะเราลอก 555
ทางที่ดีี่สุดดูตัวอย่างและแบบฟอร์มที่เขาเขียนและทำมา แล้วเรียบเรียงเป็นภาษาของเรา หากเกิดได้สัมภาษณ์ขึ้นมาเราจะได้ตอบได้ครับ คนอ่านจะดูความสามารถของเราตรงนี้หล่ะ ในฐานะที่ผมก็เป็นอีกคนที่รับสัมภาษณ์งาน เห็นจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษมาเยอะครับ แต่พอสัมภาษณ์แต่ละคนจริงๆ แป๊กทั้งนั้น
อยากบอกน้องๆนะครับที่กำลังหางานอยู่ เบื้องต้นเลยน้องต้องเขียนจดหมายภาษาอังกฤษให้เป็น ไม่ต้องเอาเนียนแบบๆฟอร์มมาก เอาเป็นที่เข้าใจก็พอครับ โครงสร้างภาษาอังกฤษอย่าให้ผิดเป็นพอ คนอ่านเขาดูจุดนี้เป็นพิเศษด้วยนะครับ
จดหมายที่เขียนไปไม่ได้หมายความว่าคนอ่านจะรับเข้าทำงานเลยนะครับ เขาต้องนัดสัมภาษณ์อีก ถ้าเนียนเกินไปก็อาจทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือได้ ทางที่ดีเขียนตามความเป็นจริงนะครับ อย่าคิดว่าลอกมาเนียนๆ แต่พอสัมภาษณืจริงๆมันไม่เนียนอย่างที่คิด คนสัมภาษณ์เหนื่อยครับ
หลายๆคนคงจะสงสัยกันแล้วนะครับว่า แล้วจะเขียนอย่างไรหล่ะให้ได้ผล ถ้าไม่เนียน ผมมีเทคนิคดีๆมาฝากครับ ก็ทิ้งท้ายในจดหมายด้วยคำนี้ May I have an interview to discuss my qualifications with you in greater detail? I can come to your office at any time convenient to you (whenever you suggest). My telephone number is 123456789 ขอได้โปรดเรียกกระผม เข้าสอบสัมภาษณ์ เพื่อจะได้ทราบ รายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับคุณสมบัติของกระผม กระผมสามารถ มายังสำนักงานของท่าน เวลาใดก็ได้ ตามที่ท่านจะสะดวก (ตามที่ท่านจะนัดหมาย) หมายเลขโทรศัพท์ ของกระผมคือ 123456789 แค่นี้ก็ได้ลุ้นแล้วครับ
ประโยคนี้ก็ใช้ได้ทีเดียวครับ I look forward to the pleasure of a personal interview. กระผมหวังว่าคงจะได้รับความกรุณา ให้ได้เข้ารับการสอบสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัว
หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้วหลายๆคนคงเข้าใจเรื่องของการเขียน จดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ ให้ได้ผมไม่มากก็น้อยทีเดียวนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีในการสมัครงานนะครับ
การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ แนะนำอย่างไรให้โดนใจ
สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยถนัดเกี่ยวกับเรื่องของการพูดภาษาอังกฤษ วันนี้เราจะมาแนะนำ การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ แบบง่ายๆ สามารถนำไปใช้ในการสัมภาษณ์งานได้เลย มาดูกันครับว่าต้องพูดอย่างไร
ทีนี้เราก็มาถึงขั้นตอนการแนะนำตัวนะครับ ด้วยคำว่า Let me introduce my self. My name is JOE. I was born on Friday 13 th of May 1988. I am 24 years old. I have no brothers or sisters. and I am single. I graduated in Communication Arts major Journalism from Rangsit university with GPA 3.80. ขอแนะนำตัวเอง ผมชื่อโจ้ครับ เกิดเมื่อ 13 พฤษภาคม 2531 อายุ 24 ปี ไม่มีพี่น้อง สถานภาพ โสด คณะที่จบการศึกษาคือคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต สาขาวารสารศาสตร์ เกรดเฉลี่ย 3.8
ต่อมาเราก็เล่าถึงทัศนะคติของเราในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยครับ I learned to do things which I never could do before. I had a great chance to learn about life, the activities of life, meet new friends, and a lot more other things than I can say ฉันได้รู้จักและได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้โอกาสเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิต ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คงบรรยายได้ไม่หมด
สิ้งที่ขาดเสียไม่ได้เลยคือ คุณสมบัติส่วนตัวนะครับ My most important qualifications is good attention and patience. When I start to do anything I will go on until the job is done. I am easy going. I can get along with anybody. My hobbies are surfing the internet, watching movies and reading books. They’re all have a lot of knowledge. คุณสมบัติที่สำคัญของผม/ดิฉัน คือ ความตั้งใจและความอดทนครับ/ค่ะ ตัวอย่างของความตั้งใจและความอดทน คือ เมื่อผม/ดิฉัน เริ่มทำงานบางอย่าง ผม/ดิฉัน จะลงมือทำมันจนเสร็จสิ้น เป็นคนเข้ากับคนง่าย สามารถเข้ากันได้กับคนทุกรูปแบบ งานอดิเรกคือการเล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ และอ่านหนังสือ เพราะมีความรู้มากมายอยู่ในนั้น
ต่อมาเราก็พูดถึงเป้าหมายในการทำงานของเราครับ I would like to have a good job which brings a stable income, have security, a family and be able to do some good things that people can remember me by. มีงานดี ๆ ที่รายได้แน่นอน และมีความมั่นคงในชีวิต มีครอบครัว และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นได้จดจำ
แน่นอนครับ เราต้องพูดถึงความประทับใจในบริษัทของเขา Because this company has a good image of stability and security. It’s like when you want to travel on a ship, certainly you would choose a ship that you feel confident with. เพราะว่าบริษัทนี้มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความมั่นคง และความปลอดภัย เหมือนกับถ้าคนเราจะลงเรือสักลำ ก็คงต้องเลือกเดินทางไปกับเรือที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย และมั่นใจ
ก่อนจบสัมภาษณ์เราก็ทิ้งท้ายสักเล็กน้อยนะครับ I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank you so much. ขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์วันนี้
เห็นมั๊ยครับ เรื่องง่ายๆกับ การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ สิ่งที่หลายๆคนกลัวนักกลัวหนา กลัวที่จะพูด หากคุณได้พูดบ่อยๆแล้วมันจะกลายเป็นความคุ้นเคยที่เราไม่ต้องกลัวอีกต่อไป สามารถนำไปใช้กับสถานการณ์อื่นก็ได้นะครับ หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อคุณไม่มากก็น้อยนะครับ
ก่อนอื่นเราก็จะต้องกล่าวทักทายก่อนนะครับ ด้วยคำว่า Hello / Good Morning / Good Afternoon. How are you today? How do you do? สวัสดีค่ะ/ครับ สบายดีไหมคะ/ครับ
![]() |
การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ |
ต่อมาเราก็เล่าถึงทัศนะคติของเราในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยครับ I learned to do things which I never could do before. I had a great chance to learn about life, the activities of life, meet new friends, and a lot more other things than I can say ฉันได้รู้จักและได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้โอกาสเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิต ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คงบรรยายได้ไม่หมด
สิ้งที่ขาดเสียไม่ได้เลยคือ คุณสมบัติส่วนตัวนะครับ My most important qualifications is good attention and patience. When I start to do anything I will go on until the job is done. I am easy going. I can get along with anybody. My hobbies are surfing the internet, watching movies and reading books. They’re all have a lot of knowledge. คุณสมบัติที่สำคัญของผม/ดิฉัน คือ ความตั้งใจและความอดทนครับ/ค่ะ ตัวอย่างของความตั้งใจและความอดทน คือ เมื่อผม/ดิฉัน เริ่มทำงานบางอย่าง ผม/ดิฉัน จะลงมือทำมันจนเสร็จสิ้น เป็นคนเข้ากับคนง่าย สามารถเข้ากันได้กับคนทุกรูปแบบ งานอดิเรกคือการเล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ และอ่านหนังสือ เพราะมีความรู้มากมายอยู่ในนั้น
ต่อมาเราก็พูดถึงเป้าหมายในการทำงานของเราครับ I would like to have a good job which brings a stable income, have security, a family and be able to do some good things that people can remember me by. มีงานดี ๆ ที่รายได้แน่นอน และมีความมั่นคงในชีวิต มีครอบครัว และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นได้จดจำ
แน่นอนครับ เราต้องพูดถึงความประทับใจในบริษัทของเขา Because this company has a good image of stability and security. It’s like when you want to travel on a ship, certainly you would choose a ship that you feel confident with. เพราะว่าบริษัทนี้มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความมั่นคง และความปลอดภัย เหมือนกับถ้าคนเราจะลงเรือสักลำ ก็คงต้องเลือกเดินทางไปกับเรือที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย และมั่นใจ
ก่อนจบสัมภาษณ์เราก็ทิ้งท้ายสักเล็กน้อยนะครับ I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank you so much. ขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์วันนี้
เห็นมั๊ยครับ เรื่องง่ายๆกับ การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ สิ่งที่หลายๆคนกลัวนักกลัวหนา กลัวที่จะพูด หากคุณได้พูดบ่อยๆแล้วมันจะกลายเป็นความคุ้นเคยที่เราไม่ต้องกลัวอีกต่อไป สามารถนำไปใช้กับสถานการณ์อื่นก็ได้นะครับ หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อคุณไม่มากก็น้อยนะครับ
ใบสมัครงานภาษาอังกฤษ เทคนิคดีๆสำหรับคนหางาน
สิ่งที่หลายๆคนกำลังคิดอยู่ขณะนี้คือจะกรอก ใบสมัครงงานภาษาอังกฤษ อย่างไรดี เทคนิคดีๆสำหรับคนหางานในวันนี้ เราจะแนะนำวิธีการกรอกใบสมัครงานที่เป็นภาษาอังกฤษกันนะครับ เรามาดูกันเลยครับ
สิ่งแรกเลยนะครับคือ ให้คุณอ่านรายละเอียดของใบสมัครให้ชัดเจนถึงกฎเกณฑ์ที่ระบุไว้ เช่น ให้เขียนหรือให้พิมพ์ข้อความลงบนใบสมัคร ต้องตอบคำถามให้ครบถ้วน ตรงประเด็น และเป็นที่น่าสนใจ เตรียมคำถามที่อาจถูกถามจากการกรอกไว้นะครับ เพื่อที่จะได้สามารถอธิบายเพิ่มเติมได้ ที่สำคัญ กรอกให้รวดเร็วที่สุด อย่าเยิ่นเย้อนะครับ
ทีนี้เรามาดูกันว่าในใบสมัครงานโดยทั่วไปมีอะไรให้เรากรอกข้อมูลบ้าง มาดูกันเลยครับ
1. ประวัติส่วนตัว
- ชื่อนามสกุลผู้สมัคร
- ที่อยู่ผู้สมัคร
- สถานภาพการสมรส
- สถานภาพทางทหาร
- เรื่องของสุขภาพ
- รายละเอียดเกี่ยกับครอบครัว
2. ประวัติการศึกษา
- ระดับการศึกษา
- วุฒิการศึกษา
3. ความสามารถพิเศษ
- ความสามารถทางด้านภาษา
- ความสามารถด้านอื่นๆ
4. ประสบการณ์ในการทำงาน
- ตำแหน่งที่ทำงาน
- เหตุผลที่ลาออก
- สถานที่ทำงาน
5. เบ็ดเตล็ดอื่นๆ
- ตำแหน่งที่สมัคร
- เงินเดือน
- คำถามเกี่ยวกับการกระทำผิด
- คำถามเกี่ยวกับการมีใบอนุญาติต่างๆ
- คำถามเกี่ยวกับการเริ่มทำงาน
6. ผู้สามารถรับรองได้
โดยทั่วไปของใบสมัครงานที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็จะมีประมาณนี้นะครับ ทีนี้เรามาเจาะลึกถึงแต่ละเรื่องกันดีกว่า ว่าจะต้องกรอกอย่างไร ถึงจะให้โดนใจคนอ่านนะครับ ซึ่งเรามีเทคนิคดีๆสำหรับการกรอกเตรียมไว้ที่นี่แล้ว มาดูกันเลยครับ
เรื่องของประวัติส่วนตัว การกรอกชื่่อและนามสกุลในใบสมัครงานภาษาอังกฤษนั้น เราจะต้องใส่คำนำหน้าชื่อด้วยนะครับ เช่น Mr. ,Mrs. ,Miss. ,Ms. เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องกรอกทั้งชื่อภาษาไทย และชื่อภาษาอังกฤษพรอกกันครับ เช่น Mr. ANUWAT RANGNONG นาย อนุวัฒน์ รังนอง (THAI)
ที่อยู่สำหรับการกรอกเรียกว่าที่อยู่ทางภูมิศาสตร์นะครับ ควรที่จะกรอกโดยละเอียด สามารถเขียนทับศัพท์ลงไปได้เลย ยกตัวอย่างเช่น 44/2 Moo2 Soi Namai Jareonkrung Rd., Khet Kangkhunthian. Bangkok เป็นต้น อย่าลืมนะครับ เราสามารถกรอกที่อยู่ได้ 2 ช่อง คือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และที่อยู่ในการติดต่อทางไปรษณีย์ครับ
สถานภาพทางการสมรส ส่วนใหญ่แล้วจะระบุโสดนะครับ มีผลต่อการเขียนใบสมัครงานมากเลยทีเดียว ให้เราทำเครื่องหมาย / หน้าหัวข้อได้เลยครับ ซึ่งในสถานภาพสมรถนี้จะให้เราระบุคือ โสด แต่งงานแล้ว เป็นหม้าย แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร หรือแยกทางกัน ภาษาอังกฤษที่ใช้คือ Single, Married, Widowed, Married with no children, Divorced, Separated นั่งเอง
ในกรณีที่เราแต่งงานแล้ว เราจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้นะครับ คือ หมายเลขใบทะเบียนสมรส ออกให้ที่อำเภอ หรือเขต วัน เดือน ปีที่ออกใบทะเบียนสมรส ชื่อคู่สมรส ภาษาอังกฤษที่ใช้ คือ Marriage Cert. No, Issued at, Dated Issued, Spouse และเราจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกนะครับ เช่น วัน เดือน ปีเกิด สถานที่เกิด ให้เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด เลขประจำตัวบัตรประชาชน สถานที่ออกบัตร วันที่ออกบัตร วันที่บัตรหมดอายุ ศาสนา หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และเลขประจำตัวบัตรประกันสังคม ภาษาอังกฤษที่ระบุคือ Birthdate, Birthplace / Nataive Place, ID Card No., Issued at, Date Issued / Dated, Expiry date / Valid Until, Religion, Taxpayers No., Social Security No.
![]() |
ใบสมัครงานภาษาอังกฤษ |
ทีนี้เรามาดูกันว่าในใบสมัครงานโดยทั่วไปมีอะไรให้เรากรอกข้อมูลบ้าง มาดูกันเลยครับ
1. ประวัติส่วนตัว
- ชื่อนามสกุลผู้สมัคร
- ที่อยู่ผู้สมัคร
- สถานภาพการสมรส
- สถานภาพทางทหาร
- เรื่องของสุขภาพ
- รายละเอียดเกี่ยกับครอบครัว
2. ประวัติการศึกษา
- ระดับการศึกษา
- วุฒิการศึกษา
3. ความสามารถพิเศษ
- ความสามารถทางด้านภาษา
- ความสามารถด้านอื่นๆ
4. ประสบการณ์ในการทำงาน
- ตำแหน่งที่ทำงาน
- เหตุผลที่ลาออก
- สถานที่ทำงาน
5. เบ็ดเตล็ดอื่นๆ
- ตำแหน่งที่สมัคร
- เงินเดือน
- คำถามเกี่ยวกับการกระทำผิด
- คำถามเกี่ยวกับการมีใบอนุญาติต่างๆ
- คำถามเกี่ยวกับการเริ่มทำงาน
6. ผู้สามารถรับรองได้
โดยทั่วไปของใบสมัครงานที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็จะมีประมาณนี้นะครับ ทีนี้เรามาเจาะลึกถึงแต่ละเรื่องกันดีกว่า ว่าจะต้องกรอกอย่างไร ถึงจะให้โดนใจคนอ่านนะครับ ซึ่งเรามีเทคนิคดีๆสำหรับการกรอกเตรียมไว้ที่นี่แล้ว มาดูกันเลยครับ
เรื่องของประวัติส่วนตัว การกรอกชื่่อและนามสกุลในใบสมัครงานภาษาอังกฤษนั้น เราจะต้องใส่คำนำหน้าชื่อด้วยนะครับ เช่น Mr. ,Mrs. ,Miss. ,Ms. เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องกรอกทั้งชื่อภาษาไทย และชื่อภาษาอังกฤษพรอกกันครับ เช่น Mr. ANUWAT RANGNONG นาย อนุวัฒน์ รังนอง (THAI)
ที่อยู่สำหรับการกรอกเรียกว่าที่อยู่ทางภูมิศาสตร์นะครับ ควรที่จะกรอกโดยละเอียด สามารถเขียนทับศัพท์ลงไปได้เลย ยกตัวอย่างเช่น 44/2 Moo2 Soi Namai Jareonkrung Rd., Khet Kangkhunthian. Bangkok เป็นต้น อย่าลืมนะครับ เราสามารถกรอกที่อยู่ได้ 2 ช่อง คือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และที่อยู่ในการติดต่อทางไปรษณีย์ครับ
สถานภาพทางการสมรส ส่วนใหญ่แล้วจะระบุโสดนะครับ มีผลต่อการเขียนใบสมัครงานมากเลยทีเดียว ให้เราทำเครื่องหมาย / หน้าหัวข้อได้เลยครับ ซึ่งในสถานภาพสมรถนี้จะให้เราระบุคือ โสด แต่งงานแล้ว เป็นหม้าย แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร หรือแยกทางกัน ภาษาอังกฤษที่ใช้คือ Single, Married, Widowed, Married with no children, Divorced, Separated นั่งเอง
ในกรณีที่เราแต่งงานแล้ว เราจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้นะครับ คือ หมายเลขใบทะเบียนสมรส ออกให้ที่อำเภอ หรือเขต วัน เดือน ปีที่ออกใบทะเบียนสมรส ชื่อคู่สมรส ภาษาอังกฤษที่ใช้ คือ Marriage Cert. No, Issued at, Dated Issued, Spouse และเราจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกนะครับ เช่น วัน เดือน ปีเกิด สถานที่เกิด ให้เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด เลขประจำตัวบัตรประชาชน สถานที่ออกบัตร วันที่ออกบัตร วันที่บัตรหมดอายุ ศาสนา หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และเลขประจำตัวบัตรประกันสังคม ภาษาอังกฤษที่ระบุคือ Birthdate, Birthplace / Nataive Place, ID Card No., Issued at, Date Issued / Dated, Expiry date / Valid Until, Religion, Taxpayers No., Social Security No.
คำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ ใครได้รับต้องซึ้ง
การอวยพรวันเกิดไม่ใช่แค่การพูดให้ผู้รับรู้สึกดีเท่านั้น แต่เป็นการให้ในสิ่งที่ผู้รับไม่เคยได้มาก่อนดังเช่น คำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ คิดว่าเจ้าของวันเกิดคงยังไม่เคยรับแบบนี้มาก่อนแน่นอน มาดูกันครับว่าถูกใจกันหรือเปล่า
I wish you the best birthday ever, one that so fantastic that it lives in your heart forever. And I want you to know that wherever you go, I'm always wishing the best for you.
ในวันเกิดของคุณนี้ขอให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ที่ทำให้หัวใจของคุณเบิกบานตลอดไป และฉันต้องการให้คุณรู้ว่า ฉันจะรักและหวังดีกับคุณตลอดไป
Each year your birthday reminds me. That I really want to say. I’m very glad I know you. I think of you each day. I hope you enjoy your birthday, All the pleasures it has in store, And because I appreciate you, I hope you have many more!
วันเกิของคุณในแต่ละปีนั้นทำให้ผมนึกถึง สึ่งที่ผมอยากจะอวยพรให้กับคุณ อยากบอกคุณว่าผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รู้จักคุณ ขอให้มีความสุขสนุกสนาน และมีสิ่งอื่นๆดีๆอยู่ข้างคุณตลอดไป สุขสันต์วันเกิดครับ
I wish you the best birthday ever, one that so fantastic that it lives in your heart forever. And I want you to know that wherever you go, I'm always wishing the best for you.
ในวันเกิดของคุณนี้ขอให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ที่ทำให้หัวใจของคุณเบิกบานตลอดไป และฉันต้องการให้คุณรู้ว่า ฉันจะรักและหวังดีกับคุณตลอดไป
Each year your birthday reminds me. That I really want to say. I’m very glad I know you. I think of you each day. I hope you enjoy your birthday, All the pleasures it has in store, And because I appreciate you, I hope you have many more!
วันเกิของคุณในแต่ละปีนั้นทำให้ผมนึกถึง สึ่งที่ผมอยากจะอวยพรให้กับคุณ อยากบอกคุณว่าผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รู้จักคุณ ขอให้มีความสุขสนุกสนาน และมีสิ่งอื่นๆดีๆอยู่ข้างคุณตลอดไป สุขสันต์วันเกิดครับ
คำอวยพรวันเกิดที่ดีที่สุดก็คือคำอวยพรที่แสดงออกมาจากใจจริงๆ ส่วนหนึ่งของ คำอวยพรวันเกิดภาษาอังกฤษ ที่เรามอบให้นี้ขอให้เจ้าของวันเกิดทุกท่าน จงมีแต่ความสุข แฮปปี้กันถ้วนหน้านะครับ
เทคนิคการเขียน ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ
หลายๆคนที่กำลังหางานอยู่ในเวลานี้จำเป็นเลยนะครับที่จะต้องเขียน ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ ให้ได้ เรามีเทคนิคง่ายๆ ซึ่งการที่จะเขียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย แต่ต้องรู้ประวัติของตัวเองเสียก่อนว่าจะต้องเริ่มอย่างไร เรามาเริ่มเขียนกันเลยครับ
ประวัติส่วนตัวผมคิดว่าทุกคนจะต้องรู้จัก มันอยู่ที่ว่าจะนำประวัติส่วนตัวนั้นไปทำอะไร เช่น อาจเป็นการบอกกล่าวให้คนอื่นรับรู้เฉยๆหรือ นำไปใช้สมัครเรียนต่อ หรือนำไปใช้สมัครงานเป็นต้น ในที่นี้ผมจะแนะนำเพื่อนๆเกี่ยวกับการเขียนประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้ในการสมัครงานครับ อาจนำไปใช้อย่างอื่นได้ด้วยนะครับ แล้วแต่เทคนิคการดัดแปลงของแต่ละคนครับ
ก่อนอื่นเลยนะครับ คุณรู้จักคำว่า Resume ภาษาอังกฤษ มาก่อนหรือเปล่า ซึ่งคำๆนี้มาจากภาษาฝรั่งเศษโดยแปลเป็นไทยว่า สรุปหรือย่อ การเขียน Resume ก็คือการเขียนประวัติส่วนตัวโดยย่อนั่นเองครับ
ประวัติส่วนตัวเปรียบเสมือนเครื่องเปิดประตูให้กับเรานะครับ เป็นการโฆษณาเราให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงความรู้ความสามารถของเราได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของการเขียนให้มาก ว่าจะต้องมีสิ่งใดประกอบในการเขียนด้วย และมีระเบียบที่จะต้องปฏิบัติอย่างไร เรามาดูกันเลยครับ
ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษที่ดีจะต้องเขียนแล้วยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 นะครับ และต้องเป็นกระดาษสีขาวเนื้อดีมีคุณภาพ หากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์หน่อยอาจเขียนเยอะเนื่องจาก มีสิ่งที่ให้ต้องเขียนมาก หากเป็นนักศึกษาที่จบใหม่แล้ว ควรเขียนให้จบใน 1 หน้ากระดาษก็เพียงพอแล้วครับ
เรื่องของคำย่อต่างๆ หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกนะครับ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องใช้คำเต็ม หรือคำที่ไม่ควรย่อ อย่าย่อเด็ดขาด หรือให้ดผุตามหลักสากลเป็นหลักนะครับ
กรณีที่เราจะพูดถึงงานอดิเรก สิ่งที่ควรต้องระวังคือ งานอดิเรกที่ไม่ตรงหรืออาจไม่เกี่ยวข้องกับงานที่เราสมัคร ก็ไม่ควรที่จะพูดถึงนะครับ เช่น หากเราสมัครงานบัญชี เราก็ไม่ควรพูดถึงงานอดิเดกเย็บปักถักร้อยของเรา เป็นต้นครับ
หลังจากที่หลายๆคนได้ลองเขียนดูแล้ว เห็นไหมครับไม่ใช่เรื่องที่ยากเลยสำหรับการเขียน ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ จากเทคนิคดีๆที่เราได้ให้ไป พยายามฝึกฝนบ่อยๆนะครับ คุณจะเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นแบบคุณไม่รู้ตัวเลยหล่ะ
![]() |
ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ |
ก่อนอื่นเลยนะครับ คุณรู้จักคำว่า Resume ภาษาอังกฤษ มาก่อนหรือเปล่า ซึ่งคำๆนี้มาจากภาษาฝรั่งเศษโดยแปลเป็นไทยว่า สรุปหรือย่อ การเขียน Resume ก็คือการเขียนประวัติส่วนตัวโดยย่อนั่นเองครับ
ประวัติส่วนตัวเปรียบเสมือนเครื่องเปิดประตูให้กับเรานะครับ เป็นการโฆษณาเราให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงความรู้ความสามารถของเราได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของการเขียนให้มาก ว่าจะต้องมีสิ่งใดประกอบในการเขียนด้วย และมีระเบียบที่จะต้องปฏิบัติอย่างไร เรามาดูกันเลยครับ
ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษที่ดีจะต้องเขียนแล้วยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 นะครับ และต้องเป็นกระดาษสีขาวเนื้อดีมีคุณภาพ หากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์หน่อยอาจเขียนเยอะเนื่องจาก มีสิ่งที่ให้ต้องเขียนมาก หากเป็นนักศึกษาที่จบใหม่แล้ว ควรเขียนให้จบใน 1 หน้ากระดาษก็เพียงพอแล้วครับ
เรื่องของคำย่อต่างๆ หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกนะครับ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องใช้คำเต็ม หรือคำที่ไม่ควรย่อ อย่าย่อเด็ดขาด หรือให้ดผุตามหลักสากลเป็นหลักนะครับ
กรณีที่เราจะพูดถึงงานอดิเรก สิ่งที่ควรต้องระวังคือ งานอดิเรกที่ไม่ตรงหรืออาจไม่เกี่ยวข้องกับงานที่เราสมัคร ก็ไม่ควรที่จะพูดถึงนะครับ เช่น หากเราสมัครงานบัญชี เราก็ไม่ควรพูดถึงงานอดิเดกเย็บปักถักร้อยของเรา เป็นต้นครับ
หลังจากที่หลายๆคนได้ลองเขียนดูแล้ว เห็นไหมครับไม่ใช่เรื่องที่ยากเลยสำหรับการเขียน ประวัติส่วนตัวภาษาอังกฤษ จากเทคนิคดีๆที่เราได้ให้ไป พยายามฝึกฝนบ่อยๆนะครับ คุณจะเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นแบบคุณไม่รู้ตัวเลยหล่ะ
ทำความรู้จักกับ คําศัพท์ชื่อตําแหน่งงานภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังหางานอยู่ไม่น้อยคือ คำศัพท์ชื่อตำแหน่งงานภาษาอังกฤษ มาดูกันครับว่า อาชีพไหนโดนใจคุณบ้าง ตามมาเลยครับ
Executive ผู้บริหาร > The executive director is a real pushover for looks. ผู้อำนวยการบริหารมองดูเด่นจริงๆ
Management การจัดการ > Japanese management must learn how to deal with American workers, he said. การจัดการของญี่ปุ่นต้องเรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับคนงานชาวอเมริกัน เขากล่าว
Department Inspection งานตรวจราชการ > The building did not pass a fire inspection. อาคารไม่ผ่านการตรวจสอบไฟไหม้
General Administration การจัดการทั่วไป > Our school administration decided to do away with that school rule. การบริหารและจัดการโรงเรียนของเรา ต้องเป็นไปตามกฏที่ตั้งไว้
Human Resource การบริหารงานบุคคล > การบริหารงานบุคคลในสังคมตำรวจไม่มีความเป็นธรรม เนื่องจากตำรวจบางพวกแสวงหาผลประโยชน์ ตลอดจนนำเงินมาซื้อหาตำแหน่งกันอย่างกว้างขวาง
chairman ประธาน > ตำแหน่งผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่ในที่ประชุม President held a reception for new staff. ประธานบริษัทจัดงานเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่
president ประธาน (ตำแหน่งนี้ต้องทำงานประจำ) > Three candidates ran for President and he was elected. สามผู้สมัครวิ่งไปหากรรมการผู้จัดการใหญ่และเขาได้รับเลือก
Vice President รองประธานบริษัท > According to the vice president, the company has yet to receive a contract from a foreign company. ตามที่รองประธานบริษัท ยังไม่ได้รับสัญญาจากบริษัทต่างประเทศ
Senior Advisor ที่ปรึกษาอาวุโส > อาจารย์ได้เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของภาควิชาอีกตำแหน่งหนึ่ง A senior lecturer of the department's position is.
Managing Director กรรมการผู้จัดการ > Our managing director is incompatible with the president. กรรมการผู้จัดการบริษัทของเราไม่เข้ากันกับประธาน
สำคัญอยู่ไม่น้อยนะครับ หากคุณไม่รู้จัก คำศัพท์ชื่อตำแหน่งงานภาษาอังกฤษ พวกนี้อยู่เลย คุณอาจพลาดงานดีๆที่กำลังเข้ามาหาคุณอยู่อาจเป็นได้ ลองสังเกตุดูนะครับ มันสามารถทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้นะ
Executive ผู้บริหาร > The executive director is a real pushover for looks. ผู้อำนวยการบริหารมองดูเด่นจริงๆ
Management การจัดการ > Japanese management must learn how to deal with American workers, he said. การจัดการของญี่ปุ่นต้องเรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับคนงานชาวอเมริกัน เขากล่าว
Department Inspection งานตรวจราชการ > The building did not pass a fire inspection. อาคารไม่ผ่านการตรวจสอบไฟไหม้
General Administration การจัดการทั่วไป > Our school administration decided to do away with that school rule. การบริหารและจัดการโรงเรียนของเรา ต้องเป็นไปตามกฏที่ตั้งไว้
Human Resource การบริหารงานบุคคล > การบริหารงานบุคคลในสังคมตำรวจไม่มีความเป็นธรรม เนื่องจากตำรวจบางพวกแสวงหาผลประโยชน์ ตลอดจนนำเงินมาซื้อหาตำแหน่งกันอย่างกว้างขวาง
chairman ประธาน > ตำแหน่งผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่ในที่ประชุม President held a reception for new staff. ประธานบริษัทจัดงานเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่
president ประธาน (ตำแหน่งนี้ต้องทำงานประจำ) > Three candidates ran for President and he was elected. สามผู้สมัครวิ่งไปหากรรมการผู้จัดการใหญ่และเขาได้รับเลือก
Vice President รองประธานบริษัท > According to the vice president, the company has yet to receive a contract from a foreign company. ตามที่รองประธานบริษัท ยังไม่ได้รับสัญญาจากบริษัทต่างประเทศ
Senior Advisor ที่ปรึกษาอาวุโส > อาจารย์ได้เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของภาควิชาอีกตำแหน่งหนึ่ง A senior lecturer of the department's position is.
Managing Director กรรมการผู้จัดการ > Our managing director is incompatible with the president. กรรมการผู้จัดการบริษัทของเราไม่เข้ากันกับประธาน
สำคัญอยู่ไม่น้อยนะครับ หากคุณไม่รู้จัก คำศัพท์ชื่อตำแหน่งงานภาษาอังกฤษ พวกนี้อยู่เลย คุณอาจพลาดงานดีๆที่กำลังเข้ามาหาคุณอยู่อาจเป็นได้ ลองสังเกตุดูนะครับ มันสามารถทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้นะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)